ทำความรู้จักกับกรองอากาศแสตนเลสเฮอริเคน Hurricane Air Filter
เครื่องยนต์ไม่ได้ต้องการแต่น้ำมันอย่างเดียวเท่านั้นเพื่อที่จะทำงานได้ แต่ยังต้องอาศัยออกซิเจนจากอากาศด้วย กรองอากาศจึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อเครื่องยนต์ เพื่อจะได้ทำหน้าที่ดักจับฝุ่นในอากาศก่อนที่จะถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ โดยส่วนมากกรองอากาศจะผลิตมาจากวัสดุที่เป็น กระดาษ หรือ ไฟเบอร์ ซึ่งสามารถกรองฝุ่นได้ดี แต่มีข้อเสียคือจำกัดปริมาณอากาศที่ไหลผ่านเครื่องยนต์ ต่างจากกรองของเฮอร์ริเคนซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีกว่าหลายประการ ทั้งทางด้านโครงสร้าง วัสดุ การดูแลรักษา ความทนทาน อัตราเร่ง ความประหยัด การดูแลสิ่งแวดล้อม
โครงสร้าง
กรองเฮอร์ริเคนใช้สแตนเลสสตีลคุณภาพสูง รหัส SUS-304 จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน และ ทนความร้อนได้สูง สามารถทนทานกับอากาศแบคไฟร์ (Back Fire) และด้วยเนื้อสแตนเลสสตีลมีประมาณนิกเกิ้ลที่สูง จึงทำให้เกิดสนิมได้ยาก จึงมีความแข็งแรงทนทาน และอายุการใช้งานยืนยาว
และใช้เทคโนโลยีการทอตาข่ายสแตนเลสสตีลใหม่ล่าสุดจากประเทศญี่ปุ่นที่สามารถทอด้วยความถี่สูง และ ด้วยโครงสร้างการทอที่ประสานระหว่างเส้นใยสแตนเลสสตีลที่มีขนาดเล็กละเอียด กับเส้นใยขนาดใหญ่ที่จะช่วยเสริมความแข็งแรง จึงทำให้กรองเฮอร์ริเคนสามารถดักจับฝุ่นได้ละเอียด ไม่บิดงอเสียรูปง่าย และช่องตาข่ายมีความถี่คงที่แข็งแรงไม่ถ่างออกง่าย
การออกแบบโครงสร้างของกรองเฮอร์ริเคนทำให้กรองเฮอร์ริเคนมีขอบยางพิเศษที่ช่วยรักษาพื้นผิวของกรองอากาศได้สูงสุด มากกว่ากรองอากาศทั่วไปถึง 10% ทำให้มีพื้นผิวให้อากาศไหลผ่านมากขึ้น ซึ่งการออกแบบนี้เฮอร์ริเคนได้เป็นเจ้าของสิทธิบัตรทางปัญญาแล้ว ประกอบกับการใช้ขอบยางธรรมชาติจึงช่วยเสริมความแข็งแรงคงทนต่อทุกสภาวะแวดล้อม
อัตราเร่งและความประหยัดน้ำมัน
ด้วยคุณสมบัติที่ลดการจำกัดปริมาณอากาศไหลผ่าน ทำให้อากาศตอบสนองได้ตามที่เครื่องยนต์ต้องการง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้เครื่องยนต์จึงใช้พลังงานน้อยลงในการดูดอากาศ และทำให้การจุดระเบิดสมบูรณ์แบบ จึงทำให้แรงม้าเพิ่มขึ้น สูงสุดถึง 10 เปอร์เซ็นต์ การตอบสนองของเครื่องยนต์ไวขึ้น ผู้ใช้จะรู้สึกถึงอัตราเร่งที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในรอบเครื่องระดับ กลาง และ ปลาย
ด้วยแรงม้า และรอบเครื่องที่เพิ่มขึ้น จึงช่วยลดการใช้พลังงานในการขับเคลื่อน เมื่อเปรียบเทียบด้วยการขับแบบวิธีเดิม ระยะทางขับจะเพิ่มขึ้นถึง 10% เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันเท่าเดิม (กิโลเมตรต่อลิตรเพิ่มขึ้น)ทำให้ประหยัดน้ำมันสูงสุดได้ถึง 15 เปอร์เซ็นต์
การดูแลสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากกรองอากาศเฮอร์ริเคนทำมาจากสแตนเลสเทคโนโลยีขั้นสูงจากญี่ปุ่น มีอายุการรักษานานตลอดชีพ ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนเหมือนกรองอากาศที่ทำมาจากกระดาษ จึงช่วยลดปริมาณขยะ และยังลดควันไอเสียดำเนื่องมาจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ได้อีกด้วย
การดูแลรักษา
กรองอากาศทั่วไปสามารถล้างทำความสะอาด และนำกลับมาใช้ได้ แต่ก็สามารถเสื่อมในเวลาต่อมาหลังจากล้างได้ แต่กรองเฮอร์ริเคนสแตนเลสสตีลทำงานได้คงมาตรฐานสูงอย่างเดิมหลังจากการทำความสะอาดเสมือนกรองใหม่
กรองเดียวตลอดชีพจะช่วยคุณประหยัดค่าบำรุงรักษาจากการที่กรองอากาศจะถูกเปลี่ยนทุกครั้ง นอกจากนี้กรองอากาศในตลาดปัจจุบันทั่วไปจะใช้วัสดุเช่น ผ้า ฟองน้ำ และโฟม ทั้งหมดล้วนต้องใช้น้ำมันเพื่อเคลือบหลังการล้าง และขั้นตอนการดูแลรักษาค่อยข้างจะยุ่งยาก หากไม่ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องอาจส่งผลเสียกับกรองอากาศได้ เช่น ห้ามทิ้งให้แห้งเอง หรือ การใส่น้ำมันน้อยไป จะทำให้กรองฝุ่นได้ไม่สมบูรณ์ หรือ ใส่มากเกินไปก็จะส่งผลต่อการปนเปื้อนต่อเซนเซอร์วัดอากาศ กรองเฮอร์ริเคนสแตนเลสสตีลไม่ต้องการน้ำมันเคลือบ จึงไม่ส่งผลต่อการปนเปื้อนของเซนเซอร์วัดอากาศ และการดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก
เพื่อให้ใช้งานได้เหมือนดั่งเดิมจึงต้องทำความสะอาด เแนะนำให้ผู้ใช้ทำความสะอาดทุกๆครั้งที่ครบรอบตรวจสภาพรถ ต้องเข้าศูนย์บริการ หรือ ทุกๆ 5,000-10,000 กิโลเมตร ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมของการใช้งานกรองเฮอร์ริเคนสแตนเลสสตีลสามารถทำความสะอาดได้บ่อยเท่าที่ต้องการ โดยที่ไม่มีผลเสียใดๆ กรองจะยังคงมีประสิทธิภาพเหมือนใหม่ทุกๆครั้งหลังการทำความสะอาด
ทำตามขั้นตอนการทำความสะอาดดังต่อไปนี้
1. นำกรองสกปรกออกมาจากหม้อกรอง
2. ล้างฝุ่นที่เกาะออกด้วยน้ำสะอาด
3. ใช้น้ำยาทำความสะอาดเช่น แชมพู หรือน้ำยาล้างจาน พร้อมทั้งใช้แปรงอ่อนขัด
4. ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งให้ฝุ่นหลุดออกจากกรองทั้งหมด
5. ทิ้งไว้ให้แห้งเอง ตากพัดลม หรือใช้เครื่องเป่าลม
6. ให้แน่ใจว่ากรองสะอาด และแห้งสนิทแล้วจึงจะใส่กลับ
หน้าที่เข้าชม | 905,371 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 499,767 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 3 ก.ย. 2568 |